แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ http://www.dmc.tv/pages/phramongkolthepmuni/2007-04-21-1.html แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ http://www.dmc.tv/pages/phramongkolthepmuni/2007-04-21-1.html แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เหตุการณ์ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจริง

     พระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คือ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า     ซึ่งสูญหายไปเมื่อประมาณพ.ศ. ๕๐๐ กลับคืนมาอีกครั้ง ด้วยการสละชีวิตปฏิบัติธรรมถึง ๒ คราว     จนเข้าถึงพระธรรมกาย และได้ศึกษาวิชชาธรรมกายจนเกิดความเชี่ยวชาญ แล้วได้มุ่งมั่น เผยแผ่    พระพุทธศาสนา และวิชชาธรรมกาย จนตลอดชีวิตของท่าน  ท่านคือจอมทัพธรรม ผู้นำในการสร้างบารมีเพื่อไปสู่ที่สุดแห่งธรรม     โดยท่านตั้งความปรารถนาจะค้นคว้าวิชชาธรรมกายไปให้ถึงที่สุด ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจาก    การเป็นบ่าว เป็นทาสของพญามาร เอาชนะให้ได้เด็ดขาด เมื่อท่านเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว ท่านมุ่งมั่นในการนั่งเจริญภาวนาเพื่อไปให้ถึงที่สุด เมื่อยิ่งปฏิบัติก็ยิ่งลึกซึ้ง จนกระทั่งออกพรรษาและรับกฐินแล้ว ท่านจึงได้ลาเจ้าอาวาสวัดโบสถ์บนไปพักที่วัดบางปลาซึ่งท่านเห็นในสมาธิว่าจะมีผู้บรรลุธรรมกาย ตามอย่างท่านได้ ท่านได้สอนภาวนาที่วัดบางปลา จนมีพระภิกษุผู้สามารถเจริญรอยตามท่านได้ ๓ รูปและคฤหัสถ์ อีก ๔ คน  เมื่อท่านรับกฐินแล้ว ท่านได้ไปปฏิบัติศาสนกิจที่วัดประตูสาร ด้วยหวังว่าจะสนองพระคุณพระอุปัชฌาย์ของท่าน แต่พระอุปัชฌาย์ท่านมรณภาพไปแล้ว หลวงปู่จึงได้อยู่แสดงธรรมเทศนาโปรดญาติโยมที่นั่นเป็นเวลา ๔ เดือน จนมีผู้ศรัทธาท่านเป็นจำนวนมาก จากนั้นท่านก็ได้เดินทางกลับวัดพระเชตุพนฯ โดยได้พาพระภิกษุ  ๔  รูปมาเรียนพระปริยัติด้วย เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ

 
    อยู่มาไม่นาน ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฏก วัดพระเชตุพนฯ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่วัดปากน้ำ ได้ขอร้องให้ท่านไปจำพรรษาที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งในขณะนั้นไม่มีเจ้าอาวาส ท่านจำต้องรับเพราะไม่อยากขัดใจ ท่านได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูสมุห์ฐานานุกรม มีพระติดตามมาจำพรรษาที่วัดปากน้ำด้วย ๔ รูป ณ ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญนี่เอง การปกครองดูแลวัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งพระภิกษุและชาวบ้านในถิ่นนั้นที่เสียผลประโยชน์ต่อต้านท่าน พวกที่ต่อต้านร่วมกันใส่ร้ายป้ายสีท่าน บ้างก็จะทำร้ายท่าน ครั้งหนึ่งมีนักเลงอันธพาล ก่อกวน เมื่อเวลาประมาณสองทุ่ม หลวงปู่วัดปากน้ำท่านปฏิบัติศาสนกิจเสร็จแล้วก็ออกมาจากศาลาเพื่อกลับกุฏิ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงท่าน ถูกจีวรทะลุ ๒ รู แต่หลวงปู่ไม่เป็นอะไร ท่านมีคติว่า “พระเราต้องไม่สู้ ต้องไม่หนี ชนะทุกที่”

    ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบเข้าวัดมากและมีนิสัยส่วนตัวแล้วที่เอาแต่ใจตนเองนิสัยกร้าวร้าวไม่พอใจก็จะร้องไห้หรือกรี๊ดจนเมื่อปิดเทอมเมื่อ5ปีที่แล้ว พ่อกับแม่ทนนิสัยของฉันไม่ไหวจึงส่งดิฉันไปให้ป้าช่วยสร้างนิสัยใหม่ให้ฉัน เดิมป้าของดิฉันเป็นคนนับถือวัดพระธรรมมกายอยู่แล้วจึงได้พาดิฉันไปวัดด้วยทุกวันอาทิตย์คร่วมงานบุญใหญ่ของวัดและเปิดช่องDMCที่อยู่ในจานดาวเทียมให้ฉันดูทุกวันและที่สำคัญไม่มีช่อง Free Tv ให้ดู จากการที่ดิฉันได้ดูช่องDMCทุกวันและไปวัดสวดมนต์เข้าร่วมงานบุญใหญ่ของวัดทำให้ดิฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนจากนั้นมาดิฉันจึงศรัธธาหลวงปู่สดมาก
    เหตุการณ์ปาฏิหาริย์ที่ดิฉันเจอกับตัวเองก็คือ ตอนที่ดิฉันจะกลับเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นดิฉันคุณป้าและคุณลุงได้สวดมนต์ขอพรจากหลวงปู่สดขอให้เดินทางปลอดภัยประกอบกับตอนนั้นเป็นหน้าฝนและดิฉันกลับตอนกลางคืน พอขับมาถึงอยุธยาฝนตกหนักมากหนักจนไม่เห็นรถซึ่งจะจอดข้างทางก็ไม่ได้เนื่องจากเป็นทางที่กำลังก่อสร้างและอยู่ดีที่ปัดน้ำฝนก็พัง ดิฉันตกใจมากและและที่สำคัญตอนนั้นดิฉันกับป้าและลุงยังไม่รู้อีกว่ารถไปเหยียบตะปู ป้าบอกกับดิฉันว่าลูกสวดมนต์ขอพรจากหลวงปู่เพื่อขอให้เราเดินทางกลับอย่างปลอดภัยดิฉันก็ท่อง สัมมา อาระหัง ฝนไม่ยอมหยุดตกป้าจึงขอพรกับหลวงปู่ให้ฝนหยุดตกเพราะที่ปัดน้ำฝนของลูกเสียจากนั้นขอพรเสร็จฝนก็หยุดตก เมื่อพอมาถึงลำพูนตอนตี 2 ดิฉันโดยปกติแล้วจะไม่หลับในรถดิฉันเห็นมีคนใส่ชุดขาววิ่งตัดหน้ารถซึ่งที่นั่นไม่มีไฟข้างทาง ลุงซึ่งเป็นคนขับรถเบรกไม่ทันและอยู่ดีๆลุงก็บอกว่าเหมือนมีใครบังคับมือให้หักพวงมาลัยรถหลบเองพอมาถึงเชียงใหม่ลุงก็เช็ครถและลุงหันไปเห็นตะปูซึ่งเหลือประมาณครึ่งหนึ่งติดอยู่ที่ล้อรถลุงจึงบอกกับดิฉันว่าเห็นไหมว่าปาฏิหาริย์ของหลวงปู่สดมีจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ และมีอีกหลายเรื่องที่ดิฉันประสบและพบมาถ้าอยากรู้โปรดติดตามตอนต่อไป